ผังการทำงาน พื้นฐานของระบบ RS จะแยกออกได้เป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. การได้มาซึ่งข้อมูล (data
acquisition) มีองค์ประกอบหลักอยู่
2 ส่วน คือ
1.1 แหล่งข้อมูล (source) ในที่นี้ หมายถึง พื้นที่เป้าหมาย ของการสำรวจ ซึ่งอาจอยู่บนผิวโลกหรือในบรรยากาศ ของโลกก็ได้ แต่ที่สำคัญ ต้องเป็นเขตที่สามารถ สร้างหรือสะท้อน สัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EM Wave) ออกมาได้ สำหรับเป็นสื่อในการตรวจวัดโดยอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่
1.2 เครื่องตรวจวัดจากระยะไกล (remote sensor) เป็นอุปกรณ์ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการตรวจวัดสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งออกมาจากพื้นที่เป้าหมาย แยกตามช่วงคลื่นที่เหมาะสม โดยมันมักถูกมักติดตั้งไว้บนเครื่องบิน บอลลูน หรือ บนดาวเทียม ทำให้สามารถสำรวจผิวโลกได้เป็นพื้นที่กว้าง โดยข้อมูลที่ได้มักจัดเก็บไว้ในรูปของ ภาพอนาลอก (analog image) หรือ ภาพเชิงตัวเลข (digital image) เช่น ภาพดาวเทียม เป็นต้น
2.
การประมวลผลข้อมูล (data processing) สามารถแบ่งออกได้เป็น
2 ส่วนหลัก คือ
2.1 การปรับแต่งและแก้ไขข้อมูล (data
enhancement and correction) เป็นการปรับแก้ข้อมูลให้มีความถูกต้อง
และเหมาะสมสำหรับการประมวลผลมากยิ่งขึ้น โดยการปรับแก้จะแบ่งเป็น 2 แบบ หลัก คือ
- การปรับแก้ ความคลาดเคลื่อนเชิงรังสี (radiometric
correction) และ
- การปรับแก้ความ คลาดเคลื่อนเชิงเรขาคณิต (geometric
correction) ของภาพที่ใช้
2.2 การวิเคราะห์และแปลข้อมูล (data analysis and
interpretation)
เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ผลการศึกษาออกมาตามที่คาดหวัง
ที่สำคัญคือเทคนิค การจำแนกองค์ประกอบ (classification)
ของภาพดาวเทียม หรือ ภาพถ่ายทางอากาศ เป็นต้น
3.
การแสดงผลการศึกษาและการจัดเก็บข้อมูล (data presentation and database
management)
4. การประยุกต์ใช้ข้อมูลร่วมกับเทคนิคทาง GIS
(GIS-based data application)
ข้อมูลที่ได้จากเครื่องตรวจวัด จะเก็บไว้ในรูปของ ข้อมูลภาพ (image data) ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. ข้อมูลอนาลอก (analog data) คือ ข้อมูลที่แสดงความเข้มของรังสีซึ่งมีค่า ต่อเนื่อง
ตลอดพื้นที่ที่ศึกษา เช่น ภาพถ่ายทางอากาศ (ซึ่งยังไม่ถูกแปลงเป็นภาพดิจิตอล) และ
2. ข้อมูลเชิงตัวเลข (digital
data) คือ ข้อมูลแสดงความเข้มของรังสี ซึ่งถูก แบ่ง ออกเป็นระดับ (level) ย่อย ๆ ในการจัดเก็บ เรียกว่าค่า บิท (bit) โดย ข้อมูล n บิท จะแบ่งเป็น 2n ระดับความเข้ม
ทั้งนี้ภาพทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็น 256 ระดับความเข้ม (เรียกว่าเป็นข้อมูล 8 บิท)
ทั้งนี้ข้อมูล เชิงตัวเลข ที่ได้การตรวจวัดจากระยะไกล
มักถูกเก็บไว้ใน 2 รูปแบบ ที่สำคัญคือ
1. ในรูปของ
ภาพเชิงตัวเลข (digital image) เช่นภาพดาวเทียมส่วนใหญ่ที่เห็น
ซึ่งมันจะแบ่งพื้นที่การเก็บข้อมูลบนภาพ ออกเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ จำนวนมาก
เรียกว่า เซลล์ภาพ (pixel) ซึ่งแต่ละชิ้น
จะเป็นตัวแทนพื้นที่ในกรอบการมอง แต่ละครั้ง บนผิวโลกของเครื่องตรวจวัด หรือ
2. ในรูปของ แฟ้มข้อมูลเชิงตัวเลข (digital file) ใน 3 มิติ สำหรับการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ต่อไป
ในกรณีหลังนี้
มักพบในการศึกษาชั้นบรรยากาศจากระยะไกล (atmospheric RS)
โดยข้อมูลเชิงตัวเลขที่เก็บไว้มักอ้างอิงเทียบกับ ตำแหน่งและความสูง
ของตำแหน่งที่ตรวจวัดจากผิวโลก ทำให้ได้เป็นแฟ้มข้อมูลใน 3 มิติ (3-D data) ออกมา สำหรับใช้ในการประมวลผลต่อไป
ลักษณะของการจัดเก็บข้อมูลภาพ แบบอนาลอก (ต่อเนื่อง)
และ แบบดิจิตอล (ไม่ต่อเนื่อง)
ระดับความเข้มตามการแบ่ง แบบขาว-ดำ ของข้อมูล 8
บิท จาก 0(ดำสุด) ถึง 255(ขาวสุด)